ความฝัน เกิดจากอะไร

Nn23052550

ความฝัน

ความฝันเป็นเรื่องราวลึกลับที่เกิดขึ้นในสมองของมนุษย์ขณะนอนหลับ เพราะไม่ว่าจะเป็นสถานที่ ผู้คน หรือเหตุการณ์ในความฝัน ผู้ที่ฝันอาจไม่เคยพบหรือประสบกับสิ่งเหล่านั้นมาก่อนในชีวิตจริง และในบางครั้งความฝันที่เกิดขึ้นอาจดูแปลกตาและไกลจากความจริงอย่างสิ้นเชิง ความฝันมักส่งผลต่อความรู้สึกเมื่อตื่นขึ้น ทั้งฝันดีและฝันร้าย ความฝันจึงอาจเป็นเรื่องที่หลายคนสงสัยว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร

ความฝันนั้นเป็นภาวะที่เกิดขึ้นในขณะหลับ เป็นภาวะที่สมองฉายภาพของสิ่งต่าง ๆ ทั้งสิ่งที่มีอยู่จริงและสิ่งที่เกิดขึ้นจากจินตนาการ เรื่องราวในความฝันเป็นสิ่งที่ค่อนข้างไม่แน่นอน ไม่ต่อเนื่อง คาดเดาไม่ได้ และไม่มีเหตุผล ในปัจจุบันนักวิจัยยังไม่สามารถระบุข้อมูลที่แท้จริงเกี่ยวกับความฝันได้ทั้งหมด แต่ก็มีทฤษฎีและความเชื่อเกี่ยวกับความฝันอยู่ไม่น้อย

ทำไมเราถึงฝันและความฝันเกิดขึ้นได้อย่างไร ?

ผู้เชี่ยวชาญได้ถกเถียงเกี่ยวกับประเด็นที่ว่าความฝันเกิดขึ้นได้อย่างไร จนออกมาเป็นทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ที่หลากหลาย ซึ่งในแต่ละทฤษฎีก็จะมีความแตกต่างกันไป เช่น ความฝันนั้นเป็นกระบวนการจัดการความจำของสมอง ความฝันเป็นผลกระทบจากความคิด ความเครียด อารมณ์ หรือสิ่งที่เคยพบเห็น ความฝันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีและกระแสไฟฟ้าภายในสมอง รวมถึงความฝันยังอาจเป็นสัญญาณของการเจ็บป่วยของร่างกายได้อีกด้วย เป็นต้น ความฝันสามารถเกิดขึ้นขณะใดก็ได้ในระหว่างนอนหลับ แต่มักเกิดขึ้นในช่วง REM หรือช่วงมีการเคลื่อนไหวดวงตาอย่างรวดเร็วขณะนอนหลับซึ่งเป็นช่วงที่สมองจะมีการตื่นตัวมากที่สุด ในอีกด้านหนึ่ง ความฝันมักถูกผูกโยงเข้ากับสิ่งเหนือธรรมชาติ อย่างวิญญาณ การเห็นอนาคต โชคลาภ และลางร้าย อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีที่ว่าความฝันเกิดขึ้นได้อย่างไรนั้นยังไม่มีข้อพิสูจน์ที่แน่ชัด

ประเภทของความฝัน

ความฝันนั้นมีหลากหลายประเภท ตัวอย่างของความฝันที่พบได้ อาจแบ่งได้ ดังนี้

  • ฝันแบบรู้ตัว (Lucid dream)ความฝันแบบรู้ตัวเป็นความฝันที่ผู้ฝันทราบว่าตนเองกำลังอยู่ในความฝัน บางคนสามารถควบคุมเรื่องราวในความฝันได้ ความฝันแบบรู้ตัวอาจเกิดจากการทำงานที่เพิ่มขึ้นของสมองส่วนจิตสำนึก ความรู้สึก ความจำ และภาษา ซึ่งโดยปกติสมองส่วนนี้จะทำงานน้อยลงหรือหยุดทำงานชั่วคราวในขณะหลับ ฝันแบบรู้ตัวเป็นภาวะของสมองระหว่างช่วง REM หรือช่วงมีการเคลื่อนไหวดวงตาอย่างรวดเร็วขณะนอนหลับ และในช่วงที่ใกล้ตื่นนอน โดยในช่วงนี้สมองจะมีการตื่นตัวมากที่สุด
  • ฝันซ้ำ (Recurrent dream)
    ฝันซ้ำมักมีรูปแบบความฝันที่เกี่ยวข้องกับความผิดพลาดหรือล้มเหลว อย่างการถูกทำร้าย ถูกไล่ล่า ถูกขัง ล้ม สอบตก หรือพลาดงานสำคัญ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าฝันซ้ำอาจสะท้อนถึงปัญหาในชีวิตจริงที่ยังหาทางออกไม่ได้ ซึ่งอาจหายไปเองเมื่อปัญหานั้นคลี่คลายหรือผู้ฝันมีแนวทางที่จะรับมือกับปัญหานั้น อีกรูปแบบหนึ่งของฝันซ้ำ คือในความฝันผู้ฝันอาจพูดไม่ได้ซึ่งอาจสะท้อนถึงความเขินอายและไม่กล้าแสดงออก
  • ฝันร้าย
    ฝันร้ายเป็นการนิยามลักษณะของความฝันที่น่าหวาดกลัวหรือสร้างความรู้ในด้านลบกับผู้ที่ฝัน ฝันร้ายสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนและฝันร้ายอาจสะท้อนหรือบ่งบอกถึงสิ่งที่น่ากังวลได้หลายอย่างในชีวิตจริง เช่น ความเครียด ประสบการณ์เลวร้ายที่ฝังใจ ความรู้สึกด้านลบ ปัญหาด้านสุขภาพ อย่างโรควิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า โรคเกี่ยวกับการนอนหลับ โรคไมเกรน และภาวะหยุดหายใจขณะหลับ เป็นต้น โดยในขณะที่ฝันร้ายผู้ฝันอาจตะโกนหรือกรีดร้องออกมาในขณะหลับและอาจทำให้ตื่นขึ้นได้

แหล่งอ้างอิง:https://www.pobpad.com/%E0%B8%9D%E0%B8%B1%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%87


ความคิดเห็น (0)

 ต้องการแสดงความคิดเห็น.
ยังไม่มีคนแสดงความคิดเห็น เริ่มแสดงความคิดเห้นได้เลยนะ
.